นายกญี่ปุ่น ขอโทษ หลังนักการเมืองใน รบ. เที่ยวกลางคืน

นายกญี่ปุ่น ขอโทษ หลังนักการเมืองใน รบ. เที่ยวกลางคืน

นายกญี่ปุ่น ออกโรง ขอโทษ ประชาชน หลังจากที่พบนักการเมืองในรัฐบาล เที่ยวกลางคืน ฝ่าฝืนคำสั่งภาวะฉุกเฉินที่ใช้ต่อสู้กับโควิด-19 เมื่อวันที่ 27 มกราคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นาย โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ออกมาแถลงขอโทษ หลังจากที่นักการเมืองการเมืองภายในรัฐบาลได้ออกไปเที่ยวกลางคืน ซึ่งถือเป็นการขัดคำสั่งที่ขอให้ประชาชนเลี่ยงออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ซึ่งผู้นำญี่ปุ่นระบุว่า นักการเมืองทุกคนควรจะทำตัวเป็นตัวอย่าง เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน

ด้าน นาย จุน มัตซึโมโต นักการเมืองที่เป็นข่าวได้ออกมาขอโทษประชาชนเช่นเดียวกัน พร้อมยอมรับว่าเขาประมาทและไม่ได้ระมัดระวังถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่นเดียวกันกับนาย คิโยฮิโกะ โทยามา อีกหนึ่งนักการเมืองที่มีข่าวว่าไปเที่ยวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้านประชาชนได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์เรียกร้องให้นักการเมืองที่เป็นข่าวลาออก เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

ย้อนไปก่อนหน้านี้ ทางการญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายพื้นที่ทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งทางการญี่ปุ่นได้ขอร้องให้ร้านค้าร้านอาหารหยุดให้บริการตั้งแต่เวลา 20.00 น. ทั้งนี้ไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตาม

คำตัดสินครั้งนี้ได้สร้าความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก พร้อมตั้งคำถามถึงเหตุผลของคำตัดสินดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีคนหยิบยกอีกว่าในกฎหมายระบุแค่ว่า การสัมผัสอวัยวะเพศ หรือ บริเวณต้องห้ามถือว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศแล้ว และไม่ได้มีการกล่าวถึงการสัมผัสแบบผิวต่อผิวหนังแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาถูกศาลตัดสินให้จำคุก 3 ปี ซึ่งผู้ต้องหาได้ขออุทธรณ์จนนำไปสู่การตัดสินดังกล่าว

ปัญหาล่วงละเมิดทางเพศถือเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศอินเดีย ซึ่งจากอ้างอิงตัวเลขเมื่อปี  2558 ระบุว่ามีหญิงถูกข่มขืนในประเทศอินเดียทุกๆ 16 นาที

ทางการสหรัฐฯยังคงเร่งตามล่า จับผู้ก่อเหตุ บุกสภาสหรัฐฯ พร้อมทั้งเปิดเผยว่าในขณะนี้พวกเขามีรายชื่อผู้ต้องสงสัยแล้วกว่า 400 ราย

เมื่อวันที่ 27 มกราคม สำนักข่าว ABC รายงานว่า นาย ไมเคิล เชอร์วิน ทนายประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้ทางการสามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุกว่า 400 คน ที่ทำการบุกสภาสหรัฐฯ

ในระหว่างที่สมาชิกสภากำลังประชุมเพื่อยืนยันคะแนนโหวตของคณะผู้เลือกตั้ง เพื่อยืนยันว่า โจ ไบเดน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ เมื่อช่วงวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ทางการยังได้รายงานว่าพวกเขาได้เข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยแล้วอย่างน้อย 135 คน

โดยทางการกล่าวว่าจำนวนผู้ต้องสงสัยเพิ่มขึ้นทุกชั่วโมง ซึ่งทางการคิดว่าพวกเขาไม่น่าจะจับกุมผู้ต้องสงสัยทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว

ขณะเดียวกันผู้ช่วยผู้กำกับสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI ได้ออกมาขอบคุณประชาชนชาวสหรัฐฯที่ได้ออกมาให้ความช่วยเหลือในการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ซึ่งทางการยังได้ระบุอีกว่าพวกเขาได้รับข้อมูลจากประชาชนทางบ้านที่ส่งมาให้กับ FBI เป็นจำนวนมาก

WHO เตรียม สืบที่มาโควิด ในอู่ฮั่น ใกล้กักตัวครบกำหนด

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เตรียมเริ่มภารกิจ สืบที่มาโควิด ในอู่ฮั่น หลังใกล้ครบกำหนดกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน

เมื่อวันที่ 27 มกราคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า เจ้าหน้าที่จากองค์การอนามัยโลกจำนวน 13 คน เตรียมปฏิบัติหน้าที่สืบหาที่มาของต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นเป็นครั้งแรก

โดยเจ้าหน้าที่จาก WHO จะเริ่มงานทันทีในช่วง 24 ชั่วโมงถัดจากนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ครบกำหนดการกักตัว 14 วัน

นักวิทยาไวรัสชาวดัทช์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ร่วมภารกิจครั้งนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN ว่า สายตาและความเห็นของประชาชนทั่วโลกกับจับตามองกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเธอยังได้กล่าวอีกว่าเธอรู้ว่าภารกิจครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อการเมืองระหว่างประเทศ โดยทางทีมจะมุ่งมั่นนำเสนอในด้านวิทยาศาสตร์อย่างเดียว

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ คณะกรรมการอิสระเพื่อการเตรียมพร้อมและตอบสนองต่อการระบาดครั้งใหญ่ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลจีนและ WHO ว่าพวกเขาสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้เร็วและมีประสิทธิภาพกว่านี้

เช่นเดียวกันกับหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯและออสเตรเลีย ที่ออกมากล่าวหาว่ารัฐบาลจีนเมินเชยต่อการแพร่ระบาด และทำให้ทางการจีนล้มเหลวที่จะป้องกันการแพร่ระบาดในช่วงแรก

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า